ที่เที่ยวในกวางโจว กวางโจวประวัติ เป็นอย่างไร?

ที่เที่ยวในกวางโจว กวางโจวหรือ กวางเจา เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งกวางโจวนั้นตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง และอยู่รวมกับที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่าง เซิ้นเจิ้น จูไห่ และ ซัวเถา เมืองแห่งนี้มีสำเนียงเฉพาะท้องถิ่น ที่ถือว่าเป็นสำเนียงมาตรฐาน เหมือนกับฮ่องกง หรือมาเก๊า ซึ่งเป็นสำเนียงแบบเดียวกัน กับคนในกวางโจวนั้นเอง เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญอีกแห่ง

ดูแลการค้าและระบบเศรษฐกิจ ที่ใหญ่ทีสุดทางตอนใต้ของจีนนั้นเอง เพราะด้วยลักษณะของเมืองเป็นเมืองท่า การขนส่งสินค้าจากภายในจีน ส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยทางเรือ หรือแม้กระทั่งการขนส่งภายในประเทศ

ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ก่อนราชวงค์ฉิงนั้นเอง โดยในอดีตนั้นเมืองกวางโจว มีอีกชื่อหนึ่งก่อนสมัยราชวงค์ฉินอย่าง พานยวี๋ จนกระทั้งปี ค.ศ. 226 เมืองแห่งนี้ถูกเรียกว่ากวางโจว เพราะเมืองอยู่ติดกับปากแม่น้ำจูเจียง

ทำให้เกิดการขนส่งคมนาคม ทางน้ำนี้ขึ้นไปติดต่อกับเมืองทางตอนกลางของจีนนั้นเอง นับตั้งแต่ยุคนั้นมาเมืองกวางโจง ได้พัฒนาปรับเปลี่ยนมาเป็นเมืองท่า ที่สำคัญของราชวงค์ต่อๆมา เพราะด้วยผลิตภัณฑ์จากทางตอนใต้ของจีนอย่าง

ผ้าไหม ใบชา เป็นต้น ได้กลายเป็นสินค้าส่งออก ให้กับต่างชาติรวมถึงชาติตะวันตกเอง ที่นิยมชอบดื่มชากัน จึงทำให้ประเทศมหาอำนาจต่างๆ อยากมาติดต่อค้าขายกับจีน ที่เป็นมหาอำนาจของเอเชียนั้นเอง ทำให้ท่าเรือของเมืองแห่งนี้

เต็มไปด้วยความคึกคักของผู้คน ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนสินค้ากันในเมือง นับว่าเป็นเมืองเอกที่สำคัญทางตอนใต้ของจีน ที่เหล่าคณะทูตจากที่ต่างๆ จะต้องมาขึ้นยังท่าแห่งนี้ รวมถึงสินค้าที่ต้องการแลกเปลี่ยน

จะต้องนำมาค้าขายกันยังดินแดนแห่งนี้นั้นเอง จนเกิดเป็นคำพูดที่่ว่า ราชการและเป็นทางการ .ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างแตกต่างจาก เมืองทางเหนือของจีนที่ไม่ได้มี ความวุ่นวายของผู้คนมากนัก เพราะที่ราบ ทางตอนบนของจีน มักทำการเกษตรกรรม ซึ่งมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกับเมืองทางตอนใต้ ที่ถือว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลกันเลยทีเดียว

ที่เที่ยวในกวางโจว

ที่เที่ยวในกวางโจว กวางโจวมี ความสำคัญอย่างไรกับจีน

จากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีนั้น เมืองกวางโจวถือว่าเป็นเมืองสำคัญ สำหรับทางการค้าทางทะเล อีกทั้ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเล ที่มีการค้าขายทางทะเลเป็นเส้นทางไกล เหมือนกับขบวนพ่อค้าจากเส้นทางสายไหม ที่เดินทางจากจีนไปยังยุโรปนั้นเอง โดยจีนเองมักจะค้นหาเส้นทางการค้า มาตั้งแต่โบราณแล้วนั้นเอง

โดยเฉพาะการเผยแพร่และรับวัฒนธรรม จากที่อื่นๆมาผสมผสาน รวมถึงการเริ่มติดต่อกับดินแดนอื่นๆ จนเกิดเป็นเครือข่ายทางการค้า ที่เชื่อมโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันนั้นเอง ในปัจจุบันนั้นกวางโจว

เป็นเมืองเอกทางเศรษฐกิจของจีนทางตอนใต้ สถาบันการเงินต่างๆมาตั้งกันทั่วทั้งเมือง รวมถึงความเจริญและสถาปัตยกรรม ทำให้เมืองแห่งนี้แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะมีความแออัดของประชากร

ที่เข้ามาแสวงหาโชคทางด้านการค้า และความมั่งคั่งทางโอกาส ทำให้ผู้คนต่างแดนเดินทางเเข้ามาเมืองแห่งนี้ เพื่อโอกาสของตัวเองนั้นเอง ในปัจจุบันนั้นเมืองแห่งนี้ ยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมอีกด้วย

เพราะด้วยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ที่นี้มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จากหลายรางวงค์ที่ผ่านมา รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ของผู้คนในเมืองแห่งนี้ ไม่เหมือนกับแดนเหนือของจีน และมณฑลอื่นๆที่มีทั้งสำเนียง อารยธรรม ที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ อันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมือง กวางโจวแห่งนี้ที่ถือว่าเป็นเพชรน้ำหนึ่ง ของประเทศจีนเลยทีเดียว

กวางโจวสถานที่ท่องเที่ยว เป็นอย่างไร?

เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งของประเทศจีน ที่มีทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่แวดล้อมเมืองแห่งนี้ เอาไว้เป็นเวลานานแล้วนั้นเอง เพราะด้วยเมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ร่วมกับ ประเทศจีนมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เป็นท่ามาตั้งแต่ยาวนาน ทำให้เมืองแห่งนี้มีความเจริญ และผู้คนในเมืองหนาแน่่นอย่างมาก ถ้าหากไปในสถานที่อันเป็นไฮไลท์แล้วละก็

จะต้องพบกับคนจำนวนมากที่พลุกพล่านนั้นเอง หากใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมจีนแล้วละก็ จะต้องหลงรักเมืองแห่งนี้นั้นเอง สถานที่แรกคือ สวนอุทยานเป่าม่อ เป็นสวนที่มีบรรยากาศร่มรื่น เหมือนอยู่ในนิยายจีนโบราณ

เพราะด้วยสิ่งก่อสร้างและบรรยากาศของทีนี้ ภายในมีสะพานหัวมังกร หากใครที่ข้ามไปนั้นจะเป็นศิริมงคลกับตัวเอง เมื่อข้ามมาแล้วก็จะพบกับ กำแพงศิลา ที่เป็นการแกะสลักลวดลายนก และสัตว์อื่นๆซึ่งมีรูปนกฟินิกส์

อันเป็นนกที่ไม่มีวันตายนั้นเอง ทางด้านหลังของกำแพงมีลายมือ ของนักปราชญ์จีนโบราณคนสำคัญต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบ่อปลาคาร์ฟมากถึง 20,000 ตัว ให้เราได้ชมความหลากสี ของปลาที่แหวกว่ายอยู่ในบ่อ

ด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่า ที่เป็นประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองนี้เลยทีเดียว สถานที่ต่อไปคือ กวางโจว ทาวเวอร์ ( Guangzhou Tower ) หรือ แคนตัน ทาวเวอร์ ( Cantan Towor ) เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองกวางโจว

สร้างเสร็จก่อนพิธีเปิดกีฬาเอเชียนเกมส์ ในปี 2010 ที่เมืองกวางโจวเป็นเจ้าภาพ ด้วยรูปทรงที่แปลกตาและความสูงถึง 600 เมตร ( 1,968 ฟุต ) ด้วยจุดเด่นของอาคารที่มีส่วนเว้า และโค้งหากมองภาพรวมแล้วเหมือนตึกโครงตาข่ายนั้นเอง

จนได้รับการขนานนามเล่นๆว่าเป็น ซูปเปอร์โมเดล ส่วนที่แคบของอาคาร มีเส้นผ่านศูนย์กลางความกว้างที่ 30 เมตร ( 98 ฟุต ) ปัจจุบันตึกแห่งนี้มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงตึก Tokyo Sky Three ที่ญี่ปุ่นนั้นเอง

ตึกแห่งนี้มีทั้งหมด 108 ชั้น โดยชนบนสุดเราสามารถขึ้นมา ชมวิวของเมืองกวางโจวอันยิ่งใหญ่ ที่มีแม่น้ำจูเจียงตัดผ่านเมืองแห่งนี้นั้นเอง อีกทั้งยังมีโซนชมวิวแบบพื้นกระจกใส ที่ทำให้เราได้เห็นวิวได้โดยรอบนั้นเอง แต่ถ้าหากใครเป็นคนกลัวความสูง

แนะนำว่าให้ชมโซนที่พื้นทึบไม่เห็นด้านล่างจะดีกว่า ตึกแห่งนี้จึงเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ที่เชิดชูความเป็นยุคใหม่นั้นเอง เราไปกันต่อที่ ภูเขาไป๋หยุน อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกวางโจวเพียง 38 เมตร มียอดเขาทั้งหมด 30 ยอด

มีเนื้อที่กว่า 20.89 ตารางกิโลเมตร บนยอดเขาแห่งนี้เป็นจุดสุดยอดชมวิว อีกแห่งหนึ่งของเมืองนี้ เพราะที่แห่งนี้แบ่งออกเป็น  3 เขต ได้แก่ เขตทางเหนือของภูเขา เขตยอดเขา และเขตทะเลสาบลู่หู ในเขตลู่หูนั้นจะเต็มไปด้วย

ความเขียวชอุ่มของต้นไม้โดยรอบ ผิวน้ำของทะเลสาบเหมือนเป็นกระจก ผืนใหญ่สะท้อนขึ้นมานั้นเอง การเดินทางไปในที่ต่างๆนั้นทำได้โดยง่าย เพราะที่นี้สามารถชมวิวไปในแต่ละเขต ได้โดยการนั่งกระเช้าลอยฟ้า ที่เชื่อมต่อกันทุกเขตของภูเขาแห่งนี้นั้นเอง

ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความน่าสนใจ  ในการท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่พาให้คนนั้นเป็นมุมมองของนก เห็นวิวทิวทัศน์จากที่สูงได้ทั่วนั้นเอง สถานที่สุดท้ายคือ ถนนคนเดินเป๋ยจิงลู่ เป็นถนนคนเดีนที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักที่สุดในเมือง

เพราะเป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ที่มีร้านค้ารวมถึงร้าน อาหารมากมาย ในแบบฉบับจีนกว้างตุ้งที่มีรสชาติเฉพาะ ไม่เหมือนที่อื่นนั้นเอง ในเส้นทางถนนสายเก่าได้รับการอนุรักษ์ โดยเอาแผ่นกระจกปิดทับของเก่า เพื่อเป็นการรักษาของดั่งเดิมเอาไว้

หากใครจะเดินตามรอยประวัติศาสตร์ ถนนเส้นนี้ก็สามารถทำได้โดยเช่นกัน นับว่าเป็นย่านเก่าแก่ที่ผู้คนในเมืองต่างรู้จัก รวมถึงเป็นย่านนัดพบปะกันของผู้คน มาตั้งแต่โบราณแล้วนั้นเอง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย มีให้เลือกช้อปปิ้งกันทั้งแบรนด์นอกและของจีนนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวของกวางโจวไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้นั้นเอง

ที่เที่ยวในกวางโจว

ปัจจุบันกวางโจวเป็นอย่างไร?

จากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เมืองแห่งนี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะการส่งออกของจีน ที่มีแห่งนี้เป็นเมืองท่ามาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ทางตอนใต้ของจีนเลยทีเดียว เรือสินค้าต่างๆเดินทางเข้าออกท่า เป็นประจำมาตลอดหลายชั่วอายุคน ผู้คนในเมืองนี้มีประชากรเพิ่มมากขึ้น จากแต่ก่อนเป็นอย่างมาก เพราะด้วยในอดีตนั้นเมืองแห่งนี้

เป็นที่มั่นสุดท้ายของด็อกเตอร์ซุน ยัด เซน ตอนช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีน ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่เป็นเหมือนผู้แพ้ อพยพพากันหนีมายังเมืองแห่งนี้ เพื่อเตรียมจะหนีไปยังฮ่องกง หรือที่ต่างๆในโพ้นทะเลนั้นเอง ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ด้วยสิ่งก่อสร้างรวมถึงความศิวิไล ของเมืองแห่งนี้ที่ก้าวหน้า ต้อนรับกับโลกยุคใหม่นั้นเอง

สรุปการท่องเที่ยวในกวางโจวเป็นอย่างไร?

เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ รวมถึงภาษาที่พูดนั้นมีสำเนียง ที่ไม่เหมือนในภูมิภาคอื่นๆ สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้มีการผสมผสานกัน ระหว่างยุคใหม่และยุคเก่า โซนประวัติศาสตร์ของเมืองดั่งเดิม ยังคงได้รับการอนุรักษ์จนมาถึงปัจจุบันนี้ ที่กลายเป็นไฮไลท์หนึ่งของ การท่องเที่ยวในเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นโซนที่เหมือนกับเป็นนิยายจีนโบราณ ที่พาให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศ

แบบวัฒนธรรมจีนในแบบวัฒนธรรม ของชาวฮั่นดั่งเดิมนั้นเอง จึงทำให้มองว่า กวางโจว เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ ทางตอนใต้ของจีนที่มีประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนานร่วมสมัยกับ ประวัติศาสตร์ประเทศจีนมาอย่างยาวนาน

โดยจุดเด่นของเมืองนี้คือ การค้าทางทะเลที่มีเส้นทางสายไหม เชื่อมต่อกับทะเลอื่นๆในโลก รวมถึงติดต่อค้าขายกับดินแดนอื่นๆ ในเอเชียอีกด้วย จนทำให้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ทางตอนใต้ของจีนนั้นเอง

เที่ยวต่างประเทศ

ประเทศบาห์เรน

ไซไฟยอดนิยม