ที่เที่ยวในภูฎาน ประวัติเป็นอย่างไร?
ที่เที่ยวในภูฎาน เป็นประเทศขนาดเล็กที่อยู่ขั้นกลางระหว่าง เทือกเขาหิมาลัย ที่มีประเทศจีนและอินเดีย อยู่ใกล้กับภูฎานนั้นเอง ความหมายของชื่อประเทศนั้นได้มาจาก ภาษาท้องถิ่นที่แปลว่า ดินแดนแห่งมังกรฟ้า ( Druk Yul ) นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ( Druk Tsendhen ) ซึ่งแปลได้ว่าเป็น เสียงสายฟ้าของมังกรนั้นเอง ชาวภูฎานนั้นมีความเชื่อ
เรื่องมังกรเหมือนกับประเทศจีน อีกทั้งวัฒนธรรมเองยัง มีความใกล้เคียงกับประเทศ ธิเบตอีกด้วย เหตุผลมาจากเมื่อปี ค.ศ.1630 ตรุกปา ลามะ ได้ลี้ภัยจากทิเบต แล้วมาตั้งแต่งตัวเอง เป็นธรรมราชาอยู่ในดินแดนแห่งนี้
แต่ทว่าดินแดนเล็กๆแห่งนี้เอง ก็ยังมิวายถูกรุกรานโดยประเทศใกล้เคียง อย่างทิเบตเองที่ถือได้ว่า มีพรมแดนอยู่ใกล้กันนั้นเอง อีกทั่งในช่วงอาณานิคมเอง ก็ได้ถูกอังกฤษที่ปกครองอินเดีย เข้ารุกรานด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1910 ได้มีการเจรจาสงบศึกกัน ตั้งแต่นั้นมาภูฎานเอง ก็ได้รับความสงบสุขตั้งแต่นั้นมา ถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็ก แต่ทว่าสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยภูเขาสูง และป่า จึงทำให้ยากต่อการทำสงครามกับภูฎานนั้นเอง
การปกครองของประเทศนี้นั้น ขึ้นตรงกับระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อไม่นานนี้เองในปี ค.ศ. 2009 ได้เปลี่ยนระบอบใหม่ โดยที่กษัตริย์เป็นประมุข แต่ยังคงมีพระราชอำนาจ
ในการออกกฎหมายอยู่นั้นเอง ทางด้านการบริหารนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลนั้นเอง นับว่าเป็นประเทศขนาดเล็ก ที่มีอารยธรรมอันเก่าแก่ ร่วมภูมิภาคกับประเทศใกล้เคียง โดยมีเทือกเขาหิมาลัย ที่ขั้นพวกเขาแยกจากกัน
แต่ในอดีตนั้นการคมนาคม และการค้าขายเส้นทางสายใหม่ ได้นำพาเศรษฐกิจรวมทั้งวัฒนธรรม เผยแพร่ไปที่ต่างๆด้วยเช่นกัน ภูฎานเองก็เช่นกัน ที่ได้รับกลิ่นไอของวัฒนธรรมทิเบต ทีผสมเข้ากับจีน และอินเดีย
โดยส่วนใหญ่นั้นคนในประเทศ จะนับถือศาสนาพุทธนิกาย มหายาน ผู้คนในประเทศนั้นมีเชื้อสาย ที่ถูกจำแนกได้ 3 เชื้อชาติ คือ ชาร์คอป ( Sharchops ) ชนพื้นเมือง ที่อาศัยอยู่ทางตะวันออก งาลอบ ( Ngalops ) ชนชาติเชื้อสายธิเบต อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตก และ โลซาม ( Lhotshams ) ชนชาติเชื้อสายเนปาล อาศัยอยู่ทางใต้นั้นเอง
ที่เที่ยวในภูฎาน มีเศรษฐกิจอย่างไร?
ประเทศแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า ถึง 60 % ของพื้นที่ จึงมีการทำการเกษตร เพาะปลูก เพื่อเป็นสินค้าส่งออกหลัก โดยที่ขนาดประเทศ มีขนาดเล็กนั้น เกือบเทียบเท่า สวัตเซอร์แลนด์นั้นเอง แต่ทว่าอัตราการโตของเศรษฐกิจ กลับสูงกว่าขนาดประเทศ เพราะมีการส่งออกเป็นหลัก โดยที่มีคู่ค้า กับประเทศใกล้เคียงอย่างอินเดีย ที่มีการส่งออกทางด้านพลังงาน
ซึ่งถือว่าเป็นซัพพลาย ที่หลายๆประเทศขนาดใหญ่ต้องการ เพราะด้วยประเทศเล็กๆแห่งนี้ ได้มีการพัฒนานำทรัพยากรน้ำ มาผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งออกขายไปยังต่างประเทศ รวมถึงด้านพลังงานอื่นๆอีกด้วย
ถึงแม้จะมีระบบเศรษฐกิจขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทำให้รายได้ ของประเทศนั้นได้กลับมาพัฒนา ทางด้านระบบอุตสาหกรรม ที่สร้างผลประโยชน์ ให้กับประเทศมาโดยตลอดนั้นเอง ภูฎานนั้นนับว่าเป็นประเทศ ที่ใช้เงินได้ทั้งสองสกุล นั้นคือ งุลตรัม
ซึ่งเป็นของภูฎาน และรูปี ที่เป็นของอินเดีย ก็จะสามารถจ่ายชำระหนี้ ได้ถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีการสนับสนุน การท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าเป็น อีกตัวช่วยหนึ่งในเศรษฐกิจ ที่ช่วยเหลือชุมชนรวมถึง พัฒนาท้องถิ่นต่างๆ
ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศนั้นเอง ด้วยชื่อเสียงที่ไม่ดังมากของประเทศนี้ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติ ของประเทศนี้ยังคงสมบูรณ์ จึงเหมาะที่จะได้เดินทาง มาสัมผัสกับบรรยากาศ
และธรรมชาติอันสวยงามของประเทศเล็กๆแห่งนี้ ที่ถือได้ว่าเป็นดินแดนสวรรค์ ตามความหมายของชื่อ ที่พวกเขาถือว่าเป็นลูกหลายมังกรนั้นเอง ที่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ระดับเทพเลยทีเดียว
ภูฎานสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?
ภูฎานเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีศิลปะและอารยธรรมมาอย่างยาวนาน ด้วยแรงศรัทธาของชาวพุทธ นิกายมหายาน จึงมีวัดและสิ่งก่อสร้าง ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา อยู่กันเป็นจำนวนมาก ด้วยที่ตั้งของประเทศอยู่บนเทือกเขาสูง ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เราจะได้เห็นวิวดีๆด้วยความสูง จากเทือกเขานั้นเอง อย่างเช่น วัดถ้ำเสือ ( Taksang Monastery ) ตั้งอยู่บนความสูงจาก
ระดับน้ำทะเลถึง 3,120 เมตร ตั้งอยู่ในเขตเมืองพาโร วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 8 ประวัติของวัดนี้คือ ครั้งหนึ่งปากถ้ำเคยเป็นที่ บำเพ็ญของ องค์กูรูรินโปเช ลามะ เป็นผู้ที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาพุทธในภูฎาน วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรม
แบบธิเบตอันสวยงาม และดูมีเอกลักษณ์เลยทีเดียว นอกจากวัดแล้วยังมีป้อมปราการ ที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในประเทศ นั้นคือ ป้อมปราการตรงซา ซอง ( Trongsa Dzong ) ตั้งอยู่ที่เมืองตรงซา ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1648 ลักษณะตัวป้อมนั้นมี
ศิลปะแบบเฉพาะของภูฎาน เป็นป้อมปราการเก่าแก่ ที่ปกป้องอาณาจักรแห่งนี้ จากทางตอนเหนือของประเทศ การการรุกรานของธิเบตนั้นเอง ที่ตั้งของป้อมนั้นอยู่บนเชิงเขา และมีธรรมชาติเป็นป้อมปราการอีกชั้น ภูเขาสูงล้อมรอบอีกทีหนึ่ง
นับว่าเป็นความยิ่งใหญ่ ของป้อมแห่งนี้ที่ครั้งหนึ่ง ได้เคยปกป้องเมืองแห่งนี้ ประเทศแห่งนี้ยังมี ป้อมปราการที่ติดกับ แม่น้ำโพ และแม่น้ำโม นั้นก็คือ ป้อมปราการพูนาคาซอง ( Punakha Ozong ) ป้อมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง พูนาคา
ถูกก่อสร้างในช่วง ค.ศ.1637 ลักษณะป้อมปราการ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สไตล์แบบภูฎาน ในอดีตที่แห่งนี้เป็นที่ทำการ ของรัฐบาล แต่ภายหลังได้กลายเป็น ที่จำพรรษาและศีกษาธรรมมะ ของพระภิกษุสามเณร อีกทั่งสถานที่แห่งนี้ยังถูกใช้
ในงานประกอบพิธีกรรมใหญ่ๆของประเทศ อย่างพิธีราชาภิเษกของ กษัตริย์จิกมี่ สถานที่แห่งนี้มีความสวยงาม แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และภูเขาสูง จึงกลายเป็นอีกสถานที่หนึ่ง เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมากันที่นี้นั้นเอง
สัตว์ประจำชาติของภูฎานนั้นก็คือ ทาคิน จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อว่า สถานอนุรักษ์ทาคิน ( Motithang Takin Preserve ) ก่อนหน้านี้ได้เคยเป็นสวนสัตว์แห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ในเมืองทิมพู ทาคินนั้นถือว่า
เป็นสัตว์ที่มีตำนานเก่าแก่นั้นก็คือ เมื่อท่านลามะ ตุรกา คุนจี ได้รับสั่งให้ชาวบ้านนำแพะ และวัว นำมาประกอบอาหาร ให้ท่านฉันหลังจากที่ได้ ฉันเหลือแต่กระดูกแล้ว ท่านได้นำกระดูกของทั้งสองมารวมกัน จากนั้นได้ดีดนิ้ว
เหล่ากองกระดูกของสัตว์ทั้งสอง ได้กลายเป็นตัวทาคินนั้นเอง ปัจจุบันทาคินเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ สามารถหาดูได้แค่ที่ภูฎานประเทศเดียวในโลก จึงมีการออกกฎหมาย ห้ามล่าและฆ่า เพราะถูกจัดเป็นสัตว์ป่าสงวนนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวของภูฎาน ยังไม่ได้หมดแต่เพียงเท่านี้ ยังคงอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรม อันสวยงามนั้นเอง
ปัจจุบันภูฎานเป็นอย่างไรบ้าง?
จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ตามกระแสโลกาภิวัตน์ แต่ดินแดนแห่งนี้นั้นกลับ อยู่อย่างเงียบสงบเรียบง่าย แฝงไปด้วยวัฒนธรรมที่ส่งต่อกันมา และพระพุทธศาสนา อันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวภูฎาน ที่ยังคอยค้ำจุนสังคมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ วัดยังคงเป็นสถานที่รวมองค์ความรู้ เด็กหลายๆคน รวมถึงคนโดยทั่วไป มักเลือกที่จะศึกษาธรรมะของชีวิต เข้าบวชเป็นพระหรือสามเณร
ด้วยระบบเศรษฐกิจในประเทศ มีขนาดเล็กจึงทำให้สังคม ขับเคลื่อนไปอย่างช้า เพราะสื่อและเทคโนโลยี สมัยใหม่ยังไม่ได้เข้าทั่วถึง ผู้คนในประเทศซะเท่าไร เพราะด้วยประเทศตั้งอยู่บน ที่ราบสูง และแวดล้อมไปด้วยภูเขา
ไม่ได้มีพื้นที่ติดทะเลเหมือนประเทศอื่น จึงทำให้การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งวิทยาการต่างๆ เข้าถึงได้ยากนั้นเอง ผู้คนในประเทศนี้ยังคงใช้ชีวิต ร่วมกันทำการเกษตรเหมือนวิถีชีวิตดั่งเดิม ถึงแม้จะกาลเวลาจะเปลี่ยนไปก็ตาม
สรุปการท่องเที่ยวภูฎานเป็นอย่างไร?
สภาพแวดล้อมรวมทั้งภูมิประเทศ ตั้งอยู่บนที่สูงจึงทำให้ได้รับ บรรยากาศที่เงียบสงบ รวมถึงอากาศบริสุทธิ์ จากธรรมชาติป่าไม้ที่ปกคลุม พื้นที่ในประเทศก็ตาม การท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น พาให้เราสนุกไปตลอดการเดินทาง เพราะทุกเส้นทางมีเรื่องให้เรา น่าตื่นเต้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วย ทะเลหมอก หรือหน้าผาสูง ที่ทำเอาขาสั่นเมื่อไปยืนอยู่ตรงนั้น
สำหรับใครที่ชอบการผจญภัย ประเทศแห่งนี้น่าจะตอบโจทย์ กับการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน จึงทำให้มองว่า ภูฎาน ถึงแม้จะเป็นประเทศที่น้อยนักจะเป็นที่รู้จัก แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงาม ที่มีธรรมชาติร่วมกับเทือกเขาหิมาลัย ถือได้ว่าเป็นจุด กำเนิดของ ต้นน้ำต่างๆรวมถึงเป็นหลังคา ของโลกใบนี้อีกด้วย จึงทำให้ภูฎานที่มีเล็ก อยู่ท่ามกลางประเทศมหาอำนาจ ทั้งสองฝั่งติดกันยังคงอยู่ดำรงด้วยความสงบ และดำเนินตามรอยวิถีของชาวภูฎานนั้นเอง