ท่องเที่ยว สปาร์ตาร์ ประวัติ เป็นอย่างไร?
ท่องเที่ยว สปาร์ตาร์ เป็นนครรัฐหนึ่งของอารยธรรมกรีกโบราณ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ ประเทศกรีกในปัจจุบัน ติดกับทะเลอีเจียนนั้นเอง รัฐสปาร์ตานั้นหากได้ยืนชื่อแล้ว ก็ต้องนึกถึงทหารที่มีความแข็งแกร่ง และสามัคคี ระบอบการปกครองของรัฐนี้ เป็นแบบราชาธิปไตย กึ่งคณาธิปไตย และประชาธิปไตยส่วนหนึ่ง ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก นครรัฐเอเธนส์
ที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยในการปกครอง ซึ่งนับว่าสปาร์ตาเอง มีความซับซ้อนทางด้านการปกครอง ซึ่งถือว่านี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้รัฐสปาร์ตาในภายหลัง เกิดปัญหาจากภายในกันเอง จนถึงขั้นล่มสลายไปตามกาลเวลานั้นเอง
สปาร์ตานั้นเดิมที ถูกใช้เรียกกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ ในหุบเขาของแม่น้ำยูโรทัส และจะดูมีนิสัยป่าเถื่อนชอบสงคราม จากมุมมองของนครรัฐอื่นๆ ในโลกยุคโบราณนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน แต่ทว่าอยู่กันคนละรัฐ
จึงเกิดการขัดแย้งได้ในเรื่องผลประโยชน์ เพราะด้วยนครรัฐของชาวกรีกนั้น มีอยู่มากมายบริเวณทะเลอีเจียน นครรัฐสปาร์ตาเองได้รับ การยอมรับแล้วถูกยกให้เป็น นครรัฐกรีกแถวหน้าเลยก็ว่าได้
สังเกตได้จากทุกครั้งที่มีสงครามใหญ่ ระหว่างเปอร์เซ๊ยกับกรีกนั้น เหล่านครรัฐต่างๆที่ประชุมกันนั้น จำเป็นต้องมีนครรัฐสปาร์ตา มาช่วยรบเพื่อเป็นการยืนยันว่า สงครามนี้ชาวกรีกจะได้เปรียบ
จึงถือว่าได้ว่านครรัฐนี้มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าทั้งในแง่การเมือง หรือทางด้านการทหารด้วยนั้นเอง จากวีรกรรมที่ชาวสปาร์ตา สามารถสกัดทัพของเปอร์เซียได้ ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่า
แต่สามารถต้านทัพที่มีจำนวนมากได้ เหตุเพราะนักรบชาวสปาร์ตานั้น จะได้รับการฝึกตั้งแต่อายุ 7 ขวบนั้นเอง ทำให้ตำนานการฝึกทหารแบบสปาร์ตา ได้กลายเป็นต้นแบบในการฝึกทหาร
ในเวลาต่อมาของโลกนั้นเอง โดยในอดีตนั้นทหารที่มารบส่วนใหญ่ จะเป็นชาวบ้านหรือทหารที่ถูกเกณฑ์มา ในช่วงเวลาที่มีสงครามเท่านั้น จึงทำให้แตกต่างจากชาวสปาร์ตา ที่ผู้ชายทุกคนคือนักรบนั้นเอง และด้วยวิธีการฝึกอันเหี้ยมโหด ทำให้กองทัพของเขานั้น มีความแข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยอย่างมากนั้นเอง จึงถือได้ว่าเป็นอีกนครรัฐหนึ่ง ที่อาณาจักรต่างๆในยุคนั้น ต่างหวั่นเกรงหากจะต้องได้รบกับ นครรัฐสปาร์ตานั้นเอง
ท่องเที่ยว สปาร์ตาร์ แตกต่างจาก นครรัฐอื่นๆของกรีกอย่างไร?
นอกเหนือจากระบอบการปกครอง รวมถึงนักรบที่มีความแข็งแกร่งแล้ว ยังมีเรื่องสิทธิสตรีอีกด้วย ผู้หญิงชาวสปาร์ตานั้น ได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆที่ไม่เหมือนใครในโลกยุคโบราณ นั้นก็คือการที่ผู้หญิงได้รับการศึกษา หรือสามารถเป็นเจ้าของที่ดินได้ อีกทั่งนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกอย่าง เฮโรโดทัส หรือ ทูซิดิเดส ได้กล่าวเอาไว้ถึงผู้หญิงสปาร์ตา ที่มีความสวยงามและดูแกร่ง
ไม่แพ้เพศชายเลยทีเดียว ทำให้นครรัฐสปาร์ตามีความโดดเด่นจากรัฐอื่นๆ ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพศหญิง เท่ากับนครรัฐนี้นั้นเอง ด้วยตำนานที่ว่าชาวสปาร์ตานั้น สืบเชื้อสายจากเทพเฮอร์คิวลิส ที่มีความแข็งแกร่ง
ทำให้ชายที่จะเกิดมาเป็นชาวสปาร์ตาได้ จะต้องมีการคัดเด็กตั้งแต่แรกเกิด หากเด็กทารกที่หลังจากคลอด มีลักษณะที่ผิดปกติหรือดูไม่แข็งแรง ก็จะโยนเด็กลงจากผู้เขานั้นเอง เพื่อคัดเลือกประชากรที่มีสภาพสมบูรณ์ ซึ่งการที่ทำอย่างนั้นในโลกโบราณ
ก็เพราะหากเด็กที่ไม่แข็งแรงเติบโตมา ก็ไม่สามารถอยู่รอดปลอดภัย จากโลกในขณะนั้นได้โดยที่ไม่มีวิทยาการสมัยใหม่ จึงทำให้ชาวสปาร์ตานั้น เต็มไปด้วยบุคคลที่สมบูรณ์แบบนั้นเอง และในการฝึกทหารนั้น หากเด็กผู้ชายอายุได้ 7 ขวบ จะต้องเข้ารับการฝึก
ที่เป็นภาคบังคับสำหรับชายทุกคน หลังจากที่ได้รับการฝึก จะได้ออกมาใช้ชีวิตอีกที ก็อายุ 30 กว่าๆได้ เพราะเหมือนชาวสปาร์ตา ต้องการกลุ่มคนวัยหนุ่ม ที่มีพละกำลังกล้าแกร่ง และดูคล่องแคลวได้ดีกว่า นับว่าครึ่งชีวิตของผู้ชายสปาร์ตา จะต้องอยู่ในการฝึกซะส่วนใหญ่
ด้วยขนบธรรมเนียมมากมาย ของชาวสปาร์ตาจึงทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับ อารยธรรมกรีกนั้นมีความน่าสนใจ ในเรื่องของบริหารและการปกครอง แบบรัฐทหารนั้นเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นนครรัฐหนึ่งของโลก ที่ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกทางด้าน การทหารมาตั้งแต่โลกโบราณเลยก็ว่าได้
สปาร์ตาสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?
นครรัฐอันเก่าแก่แห่งนี้ ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนาน เมืองสปาร์ตานี้ก็ยังหลงเหลือ ความยิ่งใหญ่ในอดีตให้เราเห็นกันอยู่ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นอารยธรรมกรีก ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์กรีกโบราณ จะต้องชื่นชอบเมืองนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้เมืองเก่าแก่แห่งนี้ อีกทั้งเมืองยังเป็นลักษณะอ่าว จึงทำให้เราได้เห็นทะเลอีเจียนได้ จากระยะไกลนั้นเอง
ภายในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ที่ชื่อว่า The Sparti Lakonia Archeological ซึ่งเป็นที่เก็บรวบหลักฐานทางโบราณคดี ในยุคสมัยอันรุงเรืองของสปาร์ตานั้นเอง เราจะได้เห็นโครงสร้างเดิม ของเมืองสปาร์ตาที่ได้พังทลายไปตามกาลเวลา
หลงเหลือไว้แต่ความยิ่งใหญ่ในอดีต ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ จะต้องชอบสถานที่นี้อย่างแน่นอน มีกรีกยุคโบราณแล้ว ก็ต้องไปต่อที่กรีกยุคไบเซนไทน์ นั้นคือ ป้อมปราการโบราณ Mystas ที่ถูกสร้างมาในยุคสมัยที่ อาณาจักรไบเซนไทน์รุงเรือง
ปกครองกรีกทั้งหมด จึงทำให้สร้างป้อมปราการแห่งนี้ เพราะด้วยอยู่บนเทือกเขาที่เป็นมุมสูง เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ต่อการสำรวจข้าศึกนั้นเอง นอกจากนี้ยังมีโบส์ถที่มีศิลปะ ยุคสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย โดยรอบปกคลุมไปด้วยป่า เศษซากป้อมปราการได้ถูก
ธรรมชาติกลืนไปเป็นส่วนหนึ่งแล้วในปัจจุบัน อนุสาวรีย์ของสปาร์ตาที่ทำให้นึกถึงเลยก็คือ อนุสาวรีย์กษัตริย์ Leodidas ซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญในอดีต ที่ปกครองนครรัฐแห่งนี้ และได้นำกองกำลังเพียง 300 คน เข้าสกัดกั้นทัพของเปอร์เซีย
ที่มีจำนวนเยอะมากกว่า จนสิ้นพระชนต์ลงที่ตรงจุดที่สร้างรูปปั้นนี้เอง จึงทำให้สถานที่ตรงนี้เป็นอีกที่หนึ่ง ที่เหมาะแก่การศึกษาประวัติศาสตร์เช่นกัน สปาร์ตาเองยังมีสถานที่ ท่องเที่ยวธรรมชาติด้วยเช่นกันนั้นคือ ถ้ำ Diros เป็นความสวยงามที่
เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ภายในมีบริการเรือให้ชมความสวยงาม ภายในถ้ำที่พื้นผิวของน้ำ ตลอดเส้นทางจะมีสีสันต์ที่มีความสวยงาม ความยาวของถ้ำนี้มีความยาวถึง 5 กิโลเมตร ในการนั่งเรือจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็จะถึงจุดปลายถ้ำนั้นเอง สปาร์ตานั้น ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ที่ซ้อนอยู่ภายใน และเป็นเอกลีกษณ์เฉพาะของกรีก มาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วนั้นเอง
เหตุใดในอดีต นครรัฐสปาร์ตาได้ล่มสลายไป?
ถึงแม้ชื่อของสปาร์ตาจะเป็นที่เรืองชื่อ ในทางด้านการรบ รวมถึงเป็นแบบแผนให้กับ การรบในยุคต่อๆมาด้วยนั้น แต่จริงๆแล้วชาวสปาร์ตานั้น เรียกได้ว่าเป็นคนหัวโบราณ และมักจะรัฐอิสระไม่ยุ่งกับใครทั้งนั้น อีกทั้งสปาร์ตาเน้นทางด้านการทหาร มากกว่ารัฐอื่นๆ ที่มีการพัฒนาวิทยาการมากกว่า อย่างคู่แข่งตลอดกาล เอเธนส์ ที่เด่นทางด้านกองทัพเรือ และศิลปะวิทยาการ
จึงทำให้เอเธนส์สามารถ มีอายุได้ยาวกว่ารัฐสปาร์ตา ในช่วงอารยธรรมกรีกมาถึงขาลง ด้วยอาณาจักรใหม่ที่เกิดขึ้น มีความแข็งแกร่งและกำลัง มีอำนาจแผ่ขยายมาทางนี้ด้วยเช่นกัน นั้นคืออาณาจักรโรมันนั้นเอง ทั้งสองฝากฝังนี้มีความคล้ายคลึงกัน
ในด้านอารยธรรม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการปกครอง หรือศาสนานั้นเอง ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โรมันที่ยิ่งใหญ่ได้ ยกพลขึ้นบกรบกับรัฐสปาร์ตา ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาวุธของทางฝั่งโรมัน และยุทธวิธีนั้นมีการพัฒนา จึงสามารถเอาชนะสปาร์ตา
ที่ถือได้ว่าเป็นนครรัฐที่แข็งแกร่ง สาเหตุที่ชาวโรมันชนะได้นั้น เพราะพวกเขาได้เปิดรับ วิทยาการใหม่ๆอยู่เสมอ ด้วยนักปราชมีชื่อรวมถึงองค์ความรู้ต่างๆ ของชาวกรีกนั้นได้ถูกโรมัน ค่อยๆกลืนไปทีละนิด จนสามารถเข้มแข็งและพัฒนากองทัพ
ให้แข็งแกร่งและสามารถเอาชนะ ยึดครองดินแดนของชาวกรีกได้ในที่สุด ชาวสปาร์ตาเองที่ยังคงนับถือ จารีตแบบเดิมจึงทำให้กองกำลัง ที่จะต้านทานอำนาจจากโรมัน เป็นไปได้ยากมากขึ้น รวมถึงสไตล์การรบยังเป็นรูปแบบเดิม มาหลายร้อยปี
จนเหมือนทางฝั่งโรมันเอง จะศึกษาคู่ต่อสู้ของเขามาก่อน ที่จะทำการบุก นั้นเอง และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นครรัฐแห่งนี้ได้อยู่ภายใต้การปกครอง ของอาณาจักรไบเซนไทน์ เมืองสปาร์ตานั้น ก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ ทางด้านยุทธศาสตร์
ทางทะเลด้วยเช่นกัน จึงได้เกิดการพัฒนาที่เป็นการผสมผสาน เข้าระหว่างวัฒนธรรมกรีกและโรมัน จนสืบเนืองมาถึงปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะอาณาจักรไบเซนไทน์ล่มสลาย กรีกจึงเหมือนตกอยู่ภายใต้ การปกครองของชาวเติร์ก ไม่ว่ายุคสมัยใดที่เปลี่ยนไป ความเป็นสปาร์ตาก็ยังคงอยู่ จนมาถึงปัจจุบันในรูปแบบวัฒนธรรมนั้นเอง
สรุปการเดินทางไปเที่ยว สปาร์ตาเป็นอย่างไร?
สภาพภูมิประเทศของ เมืองสปาร์ตานั้นอยู่บนที่ราบสูง เต็มไปด้วยผู้เขาล้อมรอบ ตัวเมืองนั้นติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียน ตัวเมืองนั้นสถาปัตยกกรม มีความคลาสิคในแบบกรีกร่วมสมัย ที่มีความสวยงามตั้งอยู่ ตามอยู่บนที่ราบสูง ภายในเมืองนั้นหากเป็นคนที่ ชื่นชอบประวัติศาสตร์นั้น จะต้องรักเมืองนี้อย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้ให้กลิ่นไอ ความเป็นอารยธรรมกรีก
ไม่แพ้เมืองเอเธนส์เลยทีเดียว อาหารท้องถิ่นรวมถึง ภาพลักษณ์ของเมืองนี้นั้น ชวนพาให้เราอยู่ในช่วงที่อารยธรรมกรีกเจริญ หากใครที่ชื่นชอบอารยธรรมกรีก จะต้องชอบเมืองนี้อย่างแน่นอน จึงทำให้ มองว่า
สปาตาร์เป็นอีกเมืองที่มีประวัติศาสตร์ อันเก่าแก่ไม่แพ้เมืองเอเธนส์ ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศกรีก แต่ทางด้านอารยธรรม หรือที่มาของสปาตาร์นั้น มีความเก่าแก่กว่าของทางฝั่งเอเธนส์ จึงทำให้มีบันทึกโบราณคดี วัคถุต่างๆเกิดขึ้นมากในพื้นที่แห่งนี้ ใครที่ชื่นชอบศึกษา อารยธรรมกรีก นับว่าห้ามพลาด