ประเทศเล็กสุดในยุโรป ลักแซมเบิร์กประวัติ เป็นอย่างไร?
ประเทศเล็กสุดในยุโรป ประเทศแห่งนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชรัฐลักแซมเบิร์ก เป็นประเทศที่ไม่มีพรมแดนติดกับทะเล แต่ติดกับประเทศเยอรมัน ในทางตะวันออก ทางใต้ติดกับฝรั่งเศส และทางตะวันตกติดกับเบลเยียม ประเทศแห่งนี้มีประวัติย้อนหลังไปกว่าพันปี เมื่อค.ศ. 963 เคานท์เอกฟิลด์แห่งลักแซมเบิร์ก เคานท์แห่งอาร์เดนเนส
ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งราชวงค์ลักแซมเบิร์ก ด้วยการสร้างปราสาทและเมืองหลวง ของประเทศแห่งนี้นั้นเอง ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งยุทธศาสตร์ที่ดี รอยล้อมไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เป็นที่รู้จักกันดีในนาม ยิบรอลตราทางเหนือ ( The Girbraltar of the North )
ซึ่งในอดีตนั้นการปกครองในที่ต่างๆนั้น ยังเป็นในรูปแบบนครรัฐ ที่ปกครองโดยขุนนางต่างๆ หรือกษัตริย์ทรงแต่งตั้ง เพื่อแบ่งเขตการปกครองนั้นเอง จนมาถึงในช่วงปลายของ ศตวรรษที่ 15 ที่ลักแซมเบิร์กมาถึงจุดรุงเรือง
และกษัตริย์หลายพระองค์ในยุโรป ต่างสืบเชื้อสายมาจากราชวงค์นี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พระจักรพรรดิปกครองเยอรมันนี 4 พระองค์ กษัตริย์ฮังการี 1 พระองค์ และกษัตริย์ปกครองโบฮีเมีย 4 พระองค์ ทำให้เห็นได้ว่าในอดีต
อาณาจักรแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญกับยุโรปขนาดไหน แต่แล้วเองในช่วงเวลาหนึ่ง ลักแซมเบิร์กเองก็หนีภัยสงคราม ทั่วทั้งยุโรปไม่ได้ จึงเคยตกเป็นของ สเปน ฝรั่งเศส ออสเตรีย และรัสเซีย
จนกระทั่งสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 ลักแซมเบิร์กได้รับอิสรภาพอีกครั้ง และได้ถูกยกฐานะจาก Duchy เป็น Grand Duchy จากนั้นได้ถูกยกให้เป็น ส่วนหนึ่งของการปกครองของ กษัตริย์เนเธอแลนด์คือ สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็มที่ 1
และจากนั้นเองในปี ค.ศ. 1868 ได้ลงสนธิสัญญาลอนดอน ทำให้ได้รับการรับรอง แบ่งแยกดินแดน และสิทธิ์ในการปกครองตัวเองของรัฐแห่งนี้นั้นเอง จนมาถึงในปัจจุบันที่รัฐแห่งนี้ ได้เข้าร่วมกับสหภาพยุโรป เพื่อยอมรับข้อตกลงร่วมกัน ทางเศรษฐกิจและพันธมิตรา ในยุโรปนั้นเอง
ประเทศเล็กสุดในยุโรป ลักแซมเบิร์กมีความสำคัญอย่างไรทางภูมิศาสตร์
ถึงแม้ประเทศแห่งนี้จะไม่ได้ติดกับทะเล แต่มีพรมแดนขนาดใหญ่ ที่ติดกับประเทศรอบข้างที่เป็นมหาอำนาจ จึงกลายมาเป็นคู่ค้าที่สำคัญ มาโดยตลอดนั้นเอง ถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่มีความมั่นคงอย่างมาก ด้วยความก้าวหน้าทางนวัตกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจ สินค้าที่ส่งออกเป็นหลักนั้นคือ
การผลิตเหล็ก เครื่องจักรและอุปกรณ์ อาหาร เครื่องดิ่ม และยาสูบ สินค้าต่างๆนั้นได้ทำการ จัดส่งผ่านพรมแดนประเทศต่างๆ หรือแม้กระทั่งการขนส่งทางทะเล ที่ประเทศเล็กๆแห่งนี้ ได้อาศัยการขนส่งทางเรือ
กับประเทศอื่นนั้นเอง ปัจจุบันลักแซมเบิร์กนั้น มีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และมีเศรษฐกิจที่มั่นคง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมนั้น ที่ประเทศนี้ส่งออกสินค้า ในระบบอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเป็นอีกประเทศ
ที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ เหมาะแก่การพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมนั้นเอง อย่างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันได้อาศัยเหล็กกล้า จากที่นี้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่เอาไว้ใช้ในสงครามนั้นเอง
อีกทั้งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัย ยุคกลางแล้วอาณาจักรแห่งนี้ นับว่าเป็นอาณาจักรอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ที่บุกโจมตีได้ยาก เพราะด้วยสภาพแวดล้อม นับว่าเป็นปราการธรรมชาติ ทำให้ยากต่อการบุกโจมตีอาณาจักรแห่งนี้นั้นเอง
ด้วยความที่ตั้งของประเทศ อยู่ช่วงทางผ่านของประเทศใหญ่ๆ จึงกลายเป็นอาณาจักร ที่ใครหลายคนต่างมองข้ามไม่ได้ หากยึดที่นี้ได้แล้วนั้น จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง อาณาจักรอื่นๆที่อยู่ทางตอนกลาง ของยุโรปได้นั้นเอง รัฐแห่งนี้ได้ปกครองตัวเอง ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงวัฒนธรรมที่ส่งต่อกันมา และยังเป็นต้นแบบของผู้ปกครองอื่นๆ ในยุโรปสมัยนั้นด้วยนั่นเอง
ลักแซมเบิร์กสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างไร?
ลักแซมเบิร์ก นั้นเป็นประเทศที่มีความคลาสสิค ไม่แพ้ประเทศอื่นๆในยุโรปเลยทีเดียว สถาปัตยกรรมต่างๆรวมทั้งป้อมปราการ ลักษณะผังเมืองที่มีการสร้างเพื่อ เป็นการป้องกันดินแดนแห่งนี้นั้นเอง นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา จึงทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ที่ราบสูงมีแม่น้ำไหลผ่านขั้นกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดกำเนิด วัฒนธรรมต่างๆในยุโรปอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในลักแซมเบิร์ก มีความน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว สถานที่แรกนั้นคือ ปราสาทเวียนแดน ( Chatrau de Viaden ) ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 11 – 14 สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์
ในช่วงเวลาต่อมาได้ก่อสร้างต่อเติม เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรเนซองส์กันเข้าไว้อย่างลงตัว ปราสาทแห่งนี้มีพรมแดนติดกับ ประเทศเยอรมันนี ว่ากันด้วยปราสาทแห่งนี้ขึ้นชื่อถึง ความยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในยุโรป
เพราะด้วยความเก่าแก่ของมัน จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ทรงคุณค่านั้นเอง ภายในจัดแสดงชุดเกราะโบราณ และอาวุธ ปราสาทแห่งนี้ยังมีห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ที่มีความเป็นยุคกลางอย่างมาก ทำให้รู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้วิวจากบนยอดปราสาท ทำให้เราเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ ด้วยที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง และแวดล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง
ให้ความรู้สึกคลาสสิคอย่างมากเลยทีเดียว สถานที่ต่อไปคือ กำแพงคอร์นิช ( The Walls of Corniche ) ที่แห่งนี้ได้รับฉายาว่า ระเบียงที่สวยที่สุดในยุโรป สิ่งก่อสร้างนี้ตั้งอยู่บริเวณป้อม Chemin de la Corniche
ด้วยฝีมือช่างชาวสเปน และฝรั่งเศส ในช่วงศตวรรษที่ 17 นั้นเอง ด้วยลักษณะระเบียงนี้ ทอดยาวไปตามแม่น้ำอัลแซตต์ ( Alzette River ) ไหลผ่านหุบเขาเพทรัส ( Petrusse Valley ) จากโครงสร้างนั้น
ในอดีตเป็นการป้องการดินแดนแห่งนี้ เพราะด้วยสะพานขนาดเล็ก ที่ต้องข้ามแม่น้่ำเส้นนี้ จะต้องผ่าน ระเบียงนี้ถึงสามชั้นเลยทีเดียว ทำให้ในอดีตเมืองแห่งนี้ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปราการที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว ปัจจุบันได้กลายเป็นที่
ปั่นจักรยานที่รื่นรมอย่างมาก เพราะด้วยต้นไม้โดยรอบและติดกับแม่น้ำ จึงทำให้ที่นี้เป็นอีกไฮไลท์ ของการเดินทางในประเทศนี้เลยทีเดียว เราไปกันต่อที่ ย่านเมืองเก่า และมหาวิหารน็อทร์ ดาม ( The Old Quarter of Luxembourg City and Notre Dame Cathedral )
ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ เป็นที่ตั้งดั่งเดิมของประเทศนี้ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารน็อทร์ ดาม ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1603 เดิมทีเป็นโบสถ์นิกายเยซูอิต จนกระทั่งต่อมาในปี ค.ศ.1613 ได่กลายเป็นมหาวิหารโรมันคาทอลิค
ด้วยสไตล์ศิลปะผสมผสานโกธิค และเรเนซองส์ ด้วยลักษณะอันโดดเด่น ของหลังคาที่เรียงกัน 3 หลัง จึงทำให้มองเห็นได้ระยะไกล ภายในยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ด้วยการตกแต่งต่างๆ ทำให้เป็นอีกแลนมาร์กหนึ่ง
ของย่านเมืองเก่าแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมี ป้อมปราการ Fort Thungen หอคอยลักษณะคล้ายลูกโอ๊คเรียงต่อกัน 3 หลัง อนุเสาวรีย์สุภาพสตรีทองคำ ( Golden Lady ) ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง การประกาศอิสรภาพของประเทศนี้
ย่านแห่งนี้เต็มไปด้วยซอกซอย ที่เดินเชื่อมถึงกันนั้นเอง สถานที่สุดท้ายคือ อุทยาน Mullerthal และ Germano – Luxembourg ที่มีทั้งทะเลสาบ น้ำตก ป่าไม้ปกคลุม และยังเป็นจุดชมวิวที่มี อากาศอันบริสุทธิ์
การเดินทางมาที่นี้ก็แสนง่าย เพียงนั่งรถโดยสารจากลักแซมเบิร์ก 30 – 40 นาที เราก็สามารถเดินเที่ยวชม อุทยานแห่งนี้ที่มีแต่ ความรมลื่นอากาศดี เหมาะแก่การมาสูดอากาศดี ในวันพักผ่อนของคุณนั้นเอง
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่แสนวิเศษเลยทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวในลักแซมเบิร์ก ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่าง ความคลาสสิคและธรรมชาติ ของประเทศนี้ที่มีความน่าสนใจ ไม่แพ้ประเทศอื่นๆในยุโรปเลยทีเดียว
ปัจจุบันลักแซมเบิร์กเป็นอย่างไร?
ด้วยขนาดประเทศที่ไม่ใหญ่มาก จึงทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างง่าย และอยู่ในสหภาพยุโรป จึงทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่อง การขาดแคลนวัตถุดิบ ในการผลิตส่งออกของประเทศ เพราะด้วยความก้าวหน้าของ
นวัตกรรมภายในประเทศ ที่มีความสามารถและคิดค้น เครื่องจักรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพานการผลิต หรือเครื่องขุดเจาะขนาดใหญ่ ทำให้เหมือนประเทศเล็กๆแห่งนี้ เป็นซับพลายให้กับยุโรป อันเป็นประเทศอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่มาตั้งแต่อดีตแล้วนั้นเอง
สรุปการเดินทางท่องเที่ยวลักแซมเบิร์กเป็นอย่างไร?
เป็นสถานที่อันแสนคลาสสิคและโรแมนติกเลยทีเดียว หากจะมองหาสถานที่ในยุโรป ที่มีความเก่าแก่ทางด้านสถาปัตยกรรม ประเทศนี้เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ เป็นในรูปแบบการป้องกันซะส่วนใหญ่ เหตุเพราะด้วยในอดีตที่ตั้งของประเทศนี้ อยู่ท่ามกลางมหาอำนาจยุโรปนั้นเอง เพื่อความอยู่รอด จึงต้องมีการป้องกันทั่วดินแดน ทำให้ประเทศนี้เต็มไปด้วย
ป้อมปราการมากมายนั้นเอง ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ยุโรป แบบยุคกลาง ประเทศแห่งนี้จะทำให้คุณ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จึงทำให้มองว่า ลักแซมเบิร์ก เป็นประเทศเล็กๆที่มีความน่าสนใจ
ทางด้านธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม อันเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว ได้พาเหล่านักท่องเที่ยว จากทั่วทั้งโลกเดินทางมาสัมผัส บรรยากาศยุคกลางที่ เป็นมรดกตกทอดมาถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ของประเทศนี้ในอดีตนั้นเอง