ฮังการี ประวัติ เป็นมาอย่างไร?

ฮังการี นั้นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ มาอย่างยาวนาน อีกทั้งลักษณะภูมิประเทศและสถาปัตยกรรม มีความงดงามอย่างมาก ฮังการีเป็นประเทศที่ ไม่ได้ติดทะเลหรือชายฝั่ง ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของจักรวรรดิโรมัน ซึ่งมีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน สมัยศัตวรรษที่ 9 คนท้องถิ่นดินแดนนี้ ถูกเรียกว่า ชาวแมกยาร์ ในอดีตเป็นชาวพื้นเมือง

สมัยโรมันที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทำการเกษตร ส่วนที่เหลือเป็นป่าทึบเช่น ป่าโอ๊ค ป่าบีช ถึงแม้เศรษฐกิจของประเทศ จะไม่ค่อยดีสู้ดีนัก เพราะฮังการีได้เคย

ถูกปกครองระบอบคอมมิวนิสต์มาก่อน และเปิดเป็นประเทศเสรีนิยมได้ไม่นาน รัฐบาลฮังการีเองก็ได้เร่งปรับปรุงเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศมีความเจริญ ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ทำให้ค่าครองชีพของที่นี้มีราคาถูก

ฮังการีผ่านช่วงเวลาประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนาน สลับเปลี่ยนระบอบการปกครอง ตามแบบประเทศอื่นๆในยุโรป สถาปัตยกรรมภายในเมืองต่างๆ เหมือนเป็นการถูกบันทึก เรื่องราวต่างๆในขณะนั้น

บอกเล่ายุคสมัยผ่านสิ่งก่อสร้าง จนกระทั่งท้ายที่สุด ฮังการีได้เปลี่ยนระบอบการปกครอง เป็นสาธารณรัฐในปี 1946 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดเรียก ตนเองว่าอาณาจักร คนที่นี้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์

นิกายโรมันคาทอลิค คาลวิล ลูเธอรัน และอื่นๆ มีเมืองหลวงที่ชื่อ บูดาเปสต์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก ถึงขนาดได้มีหนังเรื่อง Grand Budapest Hotel ได้ใช้เมืองนี้ในการถ่ายทำ เมืองนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูป

ฮังการี  

ฮังการี มีสถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองบูดาเปสต์อะไรบ้าง?

เมืองบูดาเปสต์ นั้นมีที่ตั้งอยู่ระหว่างสองฝั่ง แม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันตก ของฝั่งแม่น้ำเรียกว่า บูดา ส่วนฝั่งตะวันออก จะเรียกว่า เปสต์ ฮังการีมีชายแดนที่ติดกับประเทศ ออสเตรีย สโลวาเกีย ยูเครน โรมาเนีย เซอร์เบีย โครเอเชีย และสโลวีเนีย ทำให้สามารถเดินทางประเทศ โดยรอบได้อีกเช่นกัน สถานที่น่าท่องเที่ยว ในเมืองบูดาเปสต์ที่แรก

นำมาเสนอนั้นคือ ปราสาทบูดา ปราสาทนี้นับว่าเป็น สัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขา ปราสาทมีความยาวกว่า 300 เมตร ในอดีตเป็นที่พักพิงของกษัตริย์ฮังการี

และป้องกันการรุกราน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และแกลลอรี่งานศิลปะต่างๆ มีของตกแต่งโบราณมากมาย ควรค่าแก่การไปศึกษา สถานที่ต่อไปนั้นคือ สะพานเซนเซเซนยี

เป็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบ ที่เชื่อมบูดาเปสต์ ทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน ลักษณะสะพานเป็นโซ่ บริเวณคอสะพานเป็นรูปปั้นแกะสลักสิงโต สะพานแห่งนี้นับว่าอาจ จะสวยที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้

ที่ต่อมาคือ อาคารรัฐสภาฮังการี อาคารนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป รูปแบบรัฐภาได้มาจาก รัฐสภาในกรุงลอนดอน ตบแต่งด้วยทองคำ 40 กิโลกรัม

และอัญมณีกว่า 500,000 ชิ้น ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 20 ปี ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรม ที่สวยงามแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไปกันต่อที่ โรงอาบน้ำเซเซนยี มาเที่ยวชมเมืองนี้ทั้งที ต้องลองมาอาบน้ำที่นี้สิ

เปรียบเหมือนการแช่ออนเซ็น โรงอาบน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ที่ถือว่าเป็นมรกดกทางวัฒนธรรม ของชาวโรมันที่ตกทอดมาเลยก็ว่าได้ น้ำในสระเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ แต่ละสระมีคุณภูมิที่แตกต่างกัน สถานที่นำมาเล่า เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเดินทาง ยังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวดีๆอีกมากมาย ที่รอให้คุณได้สัมผัสเอง

ฮังการี

ฮังการี เมือง ที่น่าท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง?

นอกจากเมืองบูดาเปสต์ ที่มีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีอีกหลายเมือง ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย วันนี้จึงขอยกมาแค่ 3 เมืองก่อนที่มีธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เมืองแรกคือ เมืองเซเกสเฟเฮอร์วาร์ หรือเมืองปราสาทรักชั่วนิรันดร์ ชื่อนี้ได้มาเพราะ ปราสาทโบรี่ มีสถาปัตยกรรมแบบ บาโรกผสมกับโกธิค

ของอัศวินโบรี่ที่สร้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งรัก อันเป็นนิรันดร์ที่มีต่อภรรยาเขา ภายในเมืองนี้มีปราสาท พระราชวังเก่าแก่มากมาย สถานที่เที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาดเลย คือ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น

อดีตที่ฝังพระศพของกษัตริย์ฮังการี ความงามตามบ้านเรือนต่างๆ ถูกสร้างมาอยู่ในรูปแบบเดียวกัน ยังมีสถานที่อื่นๆอีกมากมาย เราไปกันต่อที่ เมืองเอเกอร์ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความน่าสนใจ

เมืองนี้อยู่ทางตอนเหนือ มีโบสถ์สำคัญที่เก็บกระดูกบุคคลสำคัญ ในฮังการีไว้มากมายอย่าง โบสถ์ เอเกอร์ ปราสาทเอเกอร์ เอง มีความสูงเหมือนเทพนิยายอีกด้วย เมืองๆนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไวน์

เพราะสภาพอากาศที่นี้เป็นเมืองหนาว และมีวัตถุดิบปลูกท่ามกลางธรรมชาติ จึงเหมาะที่จะหมักไวน์ รสชาติไวน์ของที่นี้จึงไม่เหมือนใคร อย่างไวน์ บลูส์บลัดออฟเอเกอร์ ถือว่าเป็นไวน์รสชาติดีของฮังการี

จากหุบเขาสาวงาม เราไปกันต่อที่เมืองสุดท้าย เมืองเปซส์ ลักษณะเป็นเมืองในภูเขา ที่โอบอุ้มเมืองนี้ไว้ และยังได้ชื่ออีกว่าเมืองนี้ เป็นดั่งวิถีชาวยุโรป ที่มียังมีโรงอาบน้ำเก่าแก่ ครั้งหนึ่งที่เคยเป็นของชาวเติร์ก

ปัจจุบันยังคงเปิดบริการอยู่ เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของสุสานชาวคริสเตียน และสุสานโบราณ ภายในเมืองยังมี มัสยิดโบราณเก่าแก่ แต่ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนมา เป็นโบสถ์ภายหลัง หลังจากการล่มสลายอาณาจักรของชาวเติร์ก เมืองทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมีความน่าสนใจ เฉพาะตัวอย่างมาก นอกเหนือจากเมืองที่กล่าว ก็ยังมีเมืองที่น่าท่องเที่ยวดีๆ อีกเยอะเช่นกัน

ฮังการี

เหตุใดฮังการี ยังคงหลงเหลือวัฒนธรรมยุโรปโบราณ อยู่ให้เห็น?

ในอดีต ประเทศฮังการี ได้เป็นส่วนหนึ่งของ จักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมหรือระบบเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ได้อ้างอิงจากศูนย์กลางอำนาจของโลก ในแต่ละช่วงยุคประวัติศาสตร์ ด้วยความทีดินแดนแห่งนี้ไม่ได้ติดทะเล การค้านั้นมีความสำคัญอย่างมาก ต่อเศรษฐกิจในรัฐต่างๆ แต่ด้วยความที่ฮังการี มีประเทศติดอยู่ล้อมรอบ ทำให้เป็นทางผ่านเส้นทางการค้าได้

ต่อมาฮังการีเอง ได้ผ่านช่วงเวลาประวัติศาสตร์มากมาย ครั้งหนึ่งฮังการีเคยเป็นชนวนเหตุสงครามโลกครั้งที่ 1 กับประเทศออสเตรีย แต่ภายหลังเหตุการณ์สงครามโลก ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร

อารยธรรมของคนในประเทศ ยังคงอนุรักษ์วิถึชีวิตยุโรปแบบดั่งเดิม สืบเนื่องมาหลายยุค หลายสมัย ที่มีการผสมผสานกันของวัฒนธรรม มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ดินแดนบริเวณ ทางยุโรปตอนกลางถูกปกครอง โดยชาวเติร์ก

ทำให้วัฒนธรรมหรือศาสนาอิสลาม ได้เข้ามามีอิทธิพล แถบนี้อยู่เหมือนกัน บางครั้งเราจะเห็นคนพื้นเมืองของที่นี้ ที่มีลักษณะเหมือนเชื้อชาติชาวตะวันออกกลาง เพราะคนเหล่านั้นถือว่าเป็น ลูกหลานของชาวเติร์ก

สถาปัตยกรรมของฮังการี เหมือนอยู่ในเทพนิยาย การ์ตูนดังเทพนิยายต่างๆ มักใช้ปราสาทหรือเมือง เป็นต้นแบบฉากในการ์ตูนต่างๆอีกด้วย บวกกับวัฒนธรรมชาวเมือง หลังกำแพงไปนั้นเหมือนหลุดอยู่

ในโลกแห่งยุคกลางอย่างไง อย่างงั้น ฮังการีได้ใช้จุดเด่นของการเป็นทางผ่านเส้นทางการค้า พัฒนาตนเองให้เป็นประเทศ แห่งการท่องเที่ยวอีกด้วย  การมาเที่ยวที่นี้เป็นประสบการณ์ที่ดี จนหลงใหลต้องกลับมาเที่ยวอีกครั้ง

ฮังการี

สรุปการเดินทางไปเที่ยวฮังการีเป็นอย่างไร?

ฮังการีนั้นถือว่าเป็นดินแดนในเทพนิยาย อย่างที่ใครหลายคนเคยกล่าวเอาไว้จริงๆ เดินทางเท้าไปทางไหนในตัวเมือง มีแต่สิ่งที่น่าค้นหาชวนให้เราเดินได้ทั้งวันไม่น่าเบื่อเลยจริงๆ ทุกๆที่เหมือนเป็นมุมถ่ายรูป สถานที่ต่างๆถูกตบแต่ง หรือมีสถาปัตยกรรมแสดงถึง ความรุ่นโรจน์ในอดีตที่เป็นรากฐานให้กับประเทศนี้ ประชาชนที่นี้จะพูดได้อยู่ 3 ภาษา

นั้นคือ ฮังการี อังฤษ และ ลาติน ได้บ้างเป็นส้วนน้อย ประเทศฮังการีเอง ถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก แต่ว่ามีระบบเศรษฐกิจที่ดีมาก การส่งออกนั้นติดอยู่อันดับที่ 35 ของโลก กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่

และนำเข้าสินค้าเป็นอันดับที่ 34 ระบบสวัสดิการต่างๆ ทางรัฐช่วยเหลือดูแลกันทุกคน รวมถึงระบบการศึกษา ที่ไม่มีการเสียค่าเหล่าเรียนเลย จนถึงระดับอุดมศึกษา สิ่งที่ชาวฮังการีได้มานั้น

ย่อมเสียภาษีเยอะมากต่อปี แต่หลายได้ของประชากรนั้น สูงพอที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆได้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นประเทศติดทะเล แต่กลับสร้างรายได้ และพัฒนาเมืองให้สวยงามได้ขนาดนี้ เสน่ห์ของประเทศฮังการี มีให้กล่าวถึงเยอะมาก นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ได้สัมผัส การมาท่องเที่ยวที่นี้นับว่าเป็นความคุ้มค่า ที่หาไม่ได้แล้วจากนี้

จึงทำให้มองว่าการมาท่องเที่ยวประเทศ ฮังการี เหมือนเดินทางมาเที่ยว โลกในเทพนิยาย ตึก รา บ้านช่อง ชุมชนต่างๆ ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นยุคกลางหลงเหลือเอาไว้ ความเจริญที่เติบโตควบคู่ไปกับ โบราณสถานที่ตั้งอยู่รอบๆเมือง ไม่ทำให้สูญเสียทัศนียภาพแม้แต่น้อยเลย ช่วงอากาศที่หนาวเย็น ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว สถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบนี้แล้วละก็ ไม่ควรที่จะพลาดอย่างยิ่ง

ดูหนังโรแมนติก

เที่่ยวอาเซียน