เที่ยวที่สโตนเฮนจ์ ประวัติ เป็นมาอย่างไร?

เที่ยวที่สโตนเฮนจ์ มีลักษณะเป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่ ลึกลับถูกจัดเรียง เหมือนเป็นอนุสรณ์อะไรบ้างอย่าง สโตนเฮนจ์ได้ถูกบันทึกเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกช่วงยุคกลาง และมรกดกโลก (Unesco ) เลยทีเดียว ปัจจุบันนักโบราณคดีก็ยังคงหา คำตอบของสิ่งก่อสร้างนี้ ว่ามันมีขึ้นไว้เพื่ออะไรกัน ที่ตั้งของสโตนเฮนจ์นั้น อยู่ที่เมือง Salisbury ประเทศอังกฤษ เป็นอนุสรณ์สถานช่วงยุค ก่อนประวัติศาสตร์ อยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ตรงกลางทุ่งที่ราบ อนุสาวรีย์แรกที่เก่าแก่ที่สุด Henge

ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว และวงกลมหินที่ไม่ซ้ำกัน เชื่อว่ามีอายุได้ราว 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช อนุสรณ์สถานมีแท่งหินขนาดยักษ์ถึง 112 ก้อน ตั้งเรียงรายล้อม มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม ซ้อนกันสามวง แท่งหินบ้างอันวางระนาบในแนวนอน  เป็นโครงสร้างที่เก่าแก่อย่างมาก

ในยุคโบราณอุปกรณ์ เครื่องมือในการก่อนสร้าง ยังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน ที่มีอุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงมากมาย ในยุคนั้นมีเพียงแค่ การใช้กำลังคนลากหิน ก้อนขนาดใหญ่ มาสร้างสถาปัตยกรรมแห่งนี้ นักโบราณคดีหลายราย คาดว่าสถานที่แห่งนี้ น่าจะเป็นศาสนสถาน ของกลุ่มมนุษย์ในยุคนั้น ที่เที่ยวอเมริกา

ที่มีความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณ ศาสนาผี มักเชื่อว่าบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว ก็จะกลายเป็นผีที่คอยปกปักษ์รักษา ไม่ว่าจะเป็นพิธีในการขอผลผลิต การเก็บเกี่ยวการเกษตรเป็นต้น สิ่งที่น่าแปลก อย่างยิ่งคือ กลุ่มคนที่สร้างสโตนเฮนจ์ได้หาย ไปอย่างไร้หลักฐานทางโบราณคดี สร้างความงุนงงอย่างมาก กับเหล่านักโบราณคดี จึงทำให้ที่แห่งนี้มีเสน่ห์ในความลึกลับนั้นเอง

เที่ยวที่สโตนเฮนจ์ มี เสน่ห์ในการมา ท่องเที่ยวอย่างไร?

สภาพแวดล้อมอันเงียบสงบของทุ่งหญ้า ที่ตั้งสโตนเฮนจ์ตั้งตระหง่า มาอย่างยาวนานนับพันปี ผ่านช่วงเวลาประวัติศาสตร์มาตลอด หลายตวรรษที่ผานมา ปัจจุบันยังคงตั้งอยู่อย่างเช่นเคย ถึงแม้บ้างอันมีเสียหาย ตามธรรมชาติ แต่ก็นับว่าสโตนเฮนจ์ถือเป็นสถาปัตยกรรม

ที่สมบูรณ์และมีอายุยาวนานอีกด้วย จึงทำให้เป็นที่น่าสนใจของคนทั้งโลก ในการเดินทางมาร่วมพิสูจน์ ความยิ่งใหญ่และความงามของ สถาปัตยกรรมหินโบราณ ที่นับว่าเป็นหนึ่งในความยิ่งใหญ่ จากสิ่งก่อสร้างในโลกยุคโบราณ ชาวพื้นเมืองของที่นี้นั้น มีวิวัฒนาการที่เหลือเชื่อ ในการลำเลียงหินขึ้นมาก่อสร้างได้

บนที่ราบกว้างขนาดนี้ อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือยุคนั้นมีเพียง เครื่องมือสำริด เชือก ไม้ และหนังสัตว์ ในการก่อสร้างนับว่าเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง ของคนยุคโบราณเลยก็ได้ ที่ว่าหากศรัทธาอะไรซะอย่าง ไม่ว่าอะไรก็สามารถ สร้างความยิ่งใหญ่ได้เสมอ สโตนเฮนจ์ตั้งอยู่ห่างจาก ที่เที่ยวเกาหลี

เมืองลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นระยะทางประมาณ 142 กิโลเมตร ทำได้ทั้งการขับรถใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง หรือ ขึ้นรถไฟจากสถานนี London Waterloo ไปยังสถานนี Salibury แล้วต่อรถ Shuttle Bus เพื่อไปยังสโตนเฮนจ์อีกทีหนึ่ง การเดินทางไม่ยากลำบาก สามารถเลือกได้ตามความถนัด นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ของชาวพื้นเมืองที่ตั้งบริเวณนี้ในอดีต คอยให้ข้อมูล และที่มาที่ไปของสโตนเฮนจ์ ให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย นับว่าสร้างความน่าสนใจ เป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

เที่ยวที่สโตนเฮนจ์

สโตนเฮนจ์สถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?

ในการเดินทางมายังสโตนเฮนจ์ นั้นระหว่างสองข้างทาง เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม เงียบสงบเต็มไปด้วยฝูงแกะ ที่ชาวบ้านแถวนี้เขาเลี้ยงเอาไว้ ทำให้เพิ่มเสน่ห์กับทุ่งแห่งนี้ได้ดีจริงๆ เมื่อเดินทางมาถึง สถานที่แห่งนี้ดุเรียบง่าย ไม่หรูหรา และกลมกลืนกับธรรมชาติ ตั้งแต่ลานจอดรถ อาคารศูนย์บริการท่องเที่ยว (Stonehenge Visitor Center) ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวเรา สามารถเดินเที่ยวชมศึกษา หาข้อมูลที่ค้นพบ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนนิทรรศการ ที่เกี่ยวกับความเป็นมาของสโตนเฮนจ์

นอกจากนี้ยังมีแบบจำลองยุคสมัย Neolithic House บ้านของคนในยุคหินใหม่ เป็นการจำลองให้เราได้ชมวิถึชีวิต ชาวพื้นเมืองกลุ่มนี้ ที่ส่งต่ออารยธรรม มาจนถึงปัจจุบันที่เรายังคงใช้ สืบต่อกันมาอย่างเช่นในอดีต โดยเฉพาะพาชนะเครื่องปั้นดินเผา หรืออุปกรณ์เครื่องทุ่นแรง ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ในการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ล้วนแต่เป็นมรดกจากคนยุคก่อน ที่ปรับตัวและพัฒนา กับการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ จาก Visitor Center นักท่องเที่ยวทุกคน สามารถนั่งรถ Shuttle Bus หรือ สามารถเดินไปได้ระยะทาง 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นสโตนเฮนจ์ ที่ตั้งสง่าอยู่บนทุ่งหญ้าอันกว้างของ เมือง Salisbury

การเดินไปสโตนเฮนจ์นั้น ไปตามทางที่างกำหนดไว้ โดยวนซ้ายไปรอบๆ เพราะเขาไม่อนุญาติให้เข้า เนือกงจากเคยมีนักท่องเที่ยว ได้มีการขีดเขียนอนุสรณ์หินแห่งนี้ เกิดการทำลายวัตถุทางประวัติศาสตร์ ทางการเลยทำการล้อมรั้ว ให้ชมได้แต่เพียงด้านนอกอย่างเดียว

สโตนเฮนจ์บ่งบอกอารยธรรม ของคนยุคหินอย่างไร?

ด้วยสถาปัตยกรรมหินที่ถูกลำเลียงมาก่อสร้าง ยังทุ่งหญ้านั้นนับว่ามนุษยชาติของเรา นั้นค่อนข้างผูกเข้ากับความเชื่อ และเป็นตัวขับเคลื่อนศรัทธาของคน ให้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หรือทำในสิ่งเดียวกันได้ ในยุคหินใหม่นั้น เราเริ่มที่จะเรียนรู้การตั้งถิ่นฐาน ช่วงยุคก่อนหน้านั้น ยังใช้วิถึชีวิต เคลื่อนย้ายถิ่นฐานไป ตามฤดูกาลต่างๆของโลก แต่เมื่อเรารู้จักการเพาะปลูก ทำให้เราไม่ต้องเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน ตามหาแหล่งอาหารไปเรื่อย ยุคหินใหม่นับว่า เป็นจุดเริ่มต้นของ ระบบชุมชนโดยแท้จริง และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ

อารยธรรมต่างๆบนโลกอีกด้วย เพราะด้วยมนุษย์ไม่ต้องเสียเวลากับการ ย้ายถิ่นฐาน ทำให้ความเชื่อนั้นมีอิทธิพล ในชีวิตกับพวกเขามากขึ้น ผู้นำทางจิตวิญญาณก็จะเป็นหมอผี หรือคนที่สัมผัสได้ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น หมอผีมักจะเป็นบุคคลเก่าแก่ในหมู่บ้าน นอกจากทำพิธีกรรมแล้ว ยังเป็นที่หมอประจำชุมชน

ที่รักษาด้วยวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป หรือพิธีกรรมในการรักษา  ทรัพยากรสำคัญในยุคนั้น ที่มนุษย์มองว่าเป็นวัตถุดิบที่สำคัญเลยก็คือ สำริด และหิน ทั้งสองนี้มักถูกใช้เป็นส่วนประกอบเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งสิ่งก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ใช้หินสร้างที่อยู่อาศัย รวมทั้งประติมากรรมต่างๆ ที่เที่ยวในสิงคโปร์ 

ที่บ่งบอกอารยธรรมของตนเอง สโตนเฮนจ์เอง นับว่าเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรม ของมนุษย์ในยุคแรกที่ เรียนรู้การก่อสร้างสิ่งต่างๆ จนกลายเป็นวงเวียนหิน ที่ถูกจัดเรียงนำมาใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ถือว่าเป็นมรดกของโลกชิ้นหนึ่ง ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างมาก

ที่เที่ยวในสิงคโปร์

สรุปการเดินทางมายังสโตนเฮนจ์ เป็นอย่างไรบ้าง?

นับว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ชวนให้เราได้ศึกษาและค้นหา มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ พาเราค้นพบกับแหล่งที่มา อารายธรรมโบราณบนเกาะอังกฤษแห่งนี้ ชาวพื้นเมืองดั่งเดิมบริเวณแถวนี้ ได้มีอารยธรรมเก่าแก่ มีการขุดค้นพบอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงไหดินเผาที่เป็นร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ นอกจากสถาปัตยกรรม สโตนเฮนจ์ ที่สวยงามแล้ว ธรรมชาติทุ่งหญ้าโดยรอบ มีความเงียบสงบ สวยงามเป็นอย่างมาก อากาศของที่นี้มีความเย็น ช่วงที่หน้าร้อนไม่ถือว่าร้อนมาก

แดดประเทศเราร้อนกว่ามาก ทำให้การเดินเที่ยวชมทุ่งหญ้านี้ไม่ทำให้ลำบากมาก ในทุ่งหญ้านี้ชาวบ้านมีการเลี้ยงแกะ ปล่อยให้เดินไปเป็นกลุ่มในทุ่งใหญ่ เป็นที่น่าเต้นสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อยากถ่ายรูปร่วมกับมัน ทุกอย่างของที่นี้ถูกจัดให้ดูเรียบง่าย สงบ เหมาะสำหรับสถานที่ทางประวัติศาสตร์

ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ด้วยความสงบ ห่างไกลจากความวุนวาย หรือสิ่งที่เป็นเหตุให้กระทบ ต่อโบราณสถานนี้ได้ นับว่าเป็นการมาท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ ที่เรียกได้ว่าให้ความน่าสนใจกับคนที่มาท่องเที่ยวอย่างมาก ได้ทั้งความรู้และบรรยากาศที่เรียบง่าย การได้เดินชมสถาปัตยกรรมโบราณ ท่ามกลางอากาศเย็น ในช่วงฤดูหนาว เป็นสื่งที่วิเศษเหมือนกัน  ทำให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ จากทั้่วโลกต่าง เดินทางกันอย่างไม่ขาดสาย

จึงทำให้มองว่าการไปเที่ยวสโตนเฮนจ์นั้น พาเรากลับไปเห็น อารยธรรมโบราณที่มนุษย์เรา เคยได้สร้างขึ้นและเป็นต้นแบบ อารยธรรมต่อๆมาจนถึงปัจจุบัน ในการเดินทางมาสโตนเฮนจ์ ก็ทำได้ไม่ยาก สถานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองลดอนดอน ทำให้การท่องเที่ยว เกิดขึ้นภายในวันเดียวได้ หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ ต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาด สถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

เที่ยวที่อิสราเอล

หนังกีฬาแห่งปี