เมืองเบลีซ เบลีซประวัติเป็นอย่างไร?

เมืองเบลีซ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน มีอาณาเขตติดกับแม็กซิโก ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศกัวเตมาลา และทางใต้ติดกับประเทศฮอนดูรัส ซึ่งนับว่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ห่างกันเพียงแค่ 75 กิโลเมตร ( 47 ไมล์ ) ตามอ่าวฮอนดูรัสทางตะวันออก ที่มาของชื่อประเทศแห่งนี้ มาจากต้นกำเนิดชื่อแม่น้ำเบลีซ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเก่าอย่างเบลีซ

ซึ่งในภาษาสเปนเขาเรียกว่า Belice พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตร้อน เป็นที่ราบลุ่มบริเวณชายฝั่งทะเล มีเนินเขาทางตอนใต้ ในอดีตนั้นอารยธรรมเก่าแก่ มากกว่า 1,500 ปี ก่อนคริสตกาล ที่ถูกปกครองโดย อารยธรรมมายาได้มีศาสนสถาน

กระจายอยู่เต็มพื้นที่ในประเทศ ตามนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ ชิ้นส่วนในประวัติศาสตร์มาก มายนั้นเอง จนกระทั่งการเข้ามาของชาว Baymen ที่เป็นชาวอังกฤษและสก็อตแลนด์ กระจายอำนาจอยู่ในภูมิภาคนี้ที่เข้ามาตั้งรกราก

ก่อนที่สเปนจะพยายามเข้ามาผลักดัน กลุ่มคนชาวอังกฤษให้ออกไป เพื่อที่จะได้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอเมริกากลาง แต่ในที่สุดสเปนเองก็ได้พ่ายแพ้ ให้กับความพยายาม ในการรวมภูมิภาคเข้าไว้ด้วยกัน จนกระทั่งประเทศแห่งนี้

ตกเป็นของอังกฤษในที่สุดนั้นเอง กลุ่มอาณานิคมอังกฤษ ได้เผชิญหน้ากับชาวมายัน ที่มาต่อต้านผู้บุกรุกจากดินแดนไกล แต่ทว่าอังกฤษเลือกใช้นโยบายเลี่ยงการปะทะ และได้ใช้ผู้นำในดินแดนนั้น ต่อสู้กับชาวสเปนที่ต้องการยึดดินแดนแห่งนี้

จึงทำให้อังกฤษมีชัยชนะและสามารถคาน อำนาจของสเปนในดินแดนอเมริกากลางนั้นเอง หลังจากสงครามเซนต์จอร์จเบอร์ ( St.George’s Caye ) ในปี ค.ศ. 1798 จากนั้นอังกฤษได้ปกครองประเทศแห่งนี้ ยาวนานภายใต้อาณานิคมจนถึงปี ค.ศ. 1973

เบลีซได้รับเอกราชในที่สุดปี ค.ศ. 1981 ปัจจุบันเบลีซปกครองโดยระบบ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งมีพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงเป็นประมุของค์ปัจจุบันการของปกครองนั้นเอง ด้วยความที่เป็นประเทศอาณานิคมเก่า

ทำให้การช่วยเหลือหรือฟื้นฟู อังกฤษได้เข้ามาวางรากฐาน รวมถึงเผยแพร่วิทยาการต่างๆ ให้กับผู้คนในประเทศได้สามารถ พัฒนาตนเองถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็กนั้นเอง

เมืองเบลีซ

เมืองเบลีซ เบลิซมีความสำคัญอย่างไรในภูมิภาคนี้?

ด้วยดินแดนในอเมริกากลาง ที่มีอารยธรรมมายาอยู่อาศัยกันในดินแดนนี้ จนกระทั่งสเปนเข้ามาถึง ได้เริ่มมีการยึดครองดินแดน จากเจ้าของเดิมเพื่อต้องการทรัพยากร อันอุดมสมบูรณ์ในดินแดนแห่งนี้ ด้วยความมั่งคั่งของสเปนในช่วง ศตวรรษที่ 16 ทำให้ประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ต้องหันมาพัฒนาการเดินเรือ เพื่อมองหาทรัพยากรสำคัญเหมือนกับประเทศสเปนนั้นเอง

และด้วยการแข่งขันทางทรัพยากร ทำให้อังกฤษเลือกที่จะมาคานอำนาจสเปน ที่มีดินแดนในอเมริกลาง รวมไปถึงอเมริกาใต้นั้นเอง เพื่อไม่ให้สเปนเป็นมหาอำนาจในทวีปอเมริกา ทำให้ประเทศอื่นๆได้ตามกันมา ยึดครองดินแดนรวมถึงเกาะต่างๆ

ในทวีปแห่งนี้นั้นเอง ซึ่งบ่อยครั้งที่เรือรบอังกฤษปะทะกับสเปนอยู่บ่อยครั้ง จนถึงขั้นอังกฤษเองใช้โจรสลัดในการขัดขว้างสเปนทางอ้อม ด้วยดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงชาวพื้นเมืองที่มีวิถีชีวิตแบบดั่งเดิม

ได้ถูกเหล่าอาณานิคมต่างๆเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมถึงวางรากฐานต่างๆให้กับประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง ลงไปถึงอเมริกาใต้ต่างมีการบริหารที่ไม่เหมือนกัน ตามประเทศที่เป็นอาณานิคม

รวมถึงผู้ตรวจการที่ประจำอยู่ในอาณานิคมนั้นเอง เบลีซเองถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็สามารถทำให้อังกฤษคานอำนาจสเปนได้ ด้วยที่ตั้งของอ่าวรวมถึงพื้นที่ในประเทศ ทำให้อังกฤษสามารถต่อต้านสเปนได้นั้นเอง

พาให้เราได้เห็นประเทศเล็กๆแห่งนี้ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งปัจจุบันได้กลายเป็น ประเทศหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยว ดึงดูดผู้คนที่ชื่นชอบธรรมชาติในแบบอเมริกากลางนั้นเอง

เบลิซสถานที่ท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง?

ถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ด้วยเสน่ห์ความสวยงามของธรรมชาติ ที่ประเทศนี้มีมาตั้งแต่อดีตแถบทะเลคาริบเบียน รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ภูเขา ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีตั้งแต่อดีต อีกทั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอารยธรรมมายา จนกระทั่งมาถึงยุคอาณานิคม ที่ได้รับอิทธิพลเหมือนกับประเทศอื่นๆ ใกล้เคียงเช่นเดียวกันนั้นเอง

แต่ด้วยเบลีซเองที่ถูกควบคุมโดยอังกฤษ ซึ่งมีความแตกต่างจากประเทศใกล้เคียง ที่สเปนได้ควบคุมพื้นที่ตอนกลางของทวีปอเมริกา เราจะได้เห็นล่องรอยทางวัฒนธรรมนั้นเอง สถานที่แรกคือ ประการัง Reef และประการัง Blue Hole

เป็นสถานที่อันแสนวิเศษ สำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาตินั้นเอง ความวิเศษของที่นี้นั้นคือหาดทรายขาว ที่ล้อมรอบแนวประการังอันอุดมสมบูรณ์ หากมองจากมุมสูงนั้นเราจะเห็นเป็น หลุมสีน้ำเงินที่มีความสวยงาม จนกลายเป็นมรดกโลกของ Unesco

และอนุเสาวรีย์ธรรมชาติ ที่แห่งนี้มีกินกรรมมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ทำกันไม่ว่าจะเป็นการ เล่นเซิร์ฟ ดำน้ำดูประการัง รวมถึงนอนอาบแดดบนหาดทรายนั้นเอง ด้วยความสวยงามของที่นี้นั้นเอง จึงได้รับฉายาว่า Half Moon Caye

ซึ่งมีลักษณะเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว นั้นเอง นอกจากนี้ยังมีนกสายพันธุ์หลากหลายชนิด กว่า 4,000 สายพันธุ์เลยทีเดียว ที่แห่งนี้จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ของการท่องเที่ยวนั้นเอง สถานที่ต่อไปคือ ปลาเซนเซีย ( Placencia )

หมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันเป็นรีสอร์ทที่พักริมชายหาด ด้วยความยาวของชายหาดกว่า 26 กิโลเมตร จรดไปถึงปลายมหาสมุทรนั้นเอง ที่แห่งนี้นับว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะเต็มไปด้วยอาหารทะเลหลากรส เพราะด้วยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านชาวประมง

ทำให้วัตถุดิบอาหารทะเลของทีนี้ มีความสดเป็นอย่างมากนั้นเอง นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติ Laughing Bird Caye เป็นมรดกโลกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมาย ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น

ของชาวบ้านแห่งนี้นั้นเอง เราไปกันต่อที่ ซานอิกนาซิโอ ตั้งอยู่ในหุบเขาระหว่างแม่น้ำ Mopal และ Macal ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมือง Cayo ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดยอดทางโบราณคดี เพราะซากพีระมิดของอารธรรมมายาแห่งนี้ ได้สร้างชื่อเสียงและดึงดูดนักท่องเที่ยว

จากทั่วทุกแห่งนั้นเอง โดยการขุดค้นพบที่แห่งนี้ครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2536 นอกจากชมพีระมิดแล้วยังมีป่าธรรมชาติ ที่ล้อมรอบซากปรักหักพังแห่งนี้ นอกจากนี้ที่นี้ยังมีถ้ำให้เราได้สำรวจ นั้นคือถ้ำ Che Chem Ha และ ถ้ำ Acti Tunichi Muknal

ซึ่งภายในมีการค้นพบโครงกระดูก รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาของชาวมายัน ให้เราได้ศึกษากันนั้นเอง สถานที่สุดท้ายคือ เบลีซซิตี้ ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็น หมู่บ้านชาวประมงของชาวมายัน ครั้งหนึ่งเมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศ

จนกระทั่งได้พบกับพายุเฮอริเคนแฮดตี้ที่คร่าชีวิตผู้คน เมืองแห่งนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าของเบลีซ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลาง ทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวมายัน ที่มีการจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ภายในเมือง

นับว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจ ในแง่ของการศึกษาวัฒนธรรม และเที่ยวชมมรดกจากอาณานิคม ที่อังกฤษเคยปกครองในอดีตนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวในเบลีซ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อีกมากมายที่ทำให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ มีเสน่ห์ไม่แพ้ประเทศอื่นๆนั้นเอง

ปัจจุบันเบลิซเป็นอย่างไร?

จากอดีตที่ชาวมายันนิยมการเพาะปลูก และด้วยผลไม้นาๆชนิดนี้เอง ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตร มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคอาณานิคมนั้นเอง และด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางทะเล ที่มีปลาชนิดต่างๆมากมาย อีกทั้งภูมิประเทศของเบลีซนั้น เป็นชายฝั่งติดกับทะเลแคริบเบียน ทำให้เกิดหมู่บ้านประมงจำนวนมากนั้นเอง ในปัจจุบันเองได้มีประเทศคู่ค้าสำคัญ ในภูมิภาคแห่งนี้ที่ทำให้ประเทศ

เติบโตจากการค้านั้นเอง รวมถึงการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ เป็นที่รู้จักของคนจากทั่วทั้งโลกนั้นเอง โดยเฉพาะความสวยงามของธรรมชาติ ที่ได้รับมรดกโลกมากมาย

ในการอนุรักษ์ความสวยงามแห่งนี้นั้นเอง จากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้น ทำให้การท่องเที่ยวในประเทศ เป็นที่สนใจและคึกคักอยู่ตลอด ทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศ อยู่ดีกินดีขึ้นนั้นเองรวมถึงเป็นประเทศ ที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักนั้นเอง

เมืองเบลีซ

สรุปการท่องเที่ยวเบลีซเป็นอย่างไร?

ในประเทศเล็กๆแห่งนี้ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ รวมถึงโบราณสถานอันเก่าแก่ ของอารยธรรมมายาที่โด่งดัง กระจายตัวอยู่ในประเทศเล็กๆแห่งนี้ พาให้เราได้สัมผัสกับการท่องเที่ยว อันหลากหลายและเหมาะสำเร็จ การพักผ่อนในช่วงวันหยุดของใครหลายตน สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ แล้วละก็จะต้องหลงรักประเทศแห่งนี้แน่นอน จากการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น

ได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ที่ช่วยส่งเสริมชนบทในประเทศ ให้มีรายได้ที่มากขึ้นนั้นเอง อีกทั้งยังมีจุดบริการนักท่องเที่ยว ที่มีพร้อมเหมือนกับประเทศอื่นๆ ให้ประสบการณ์ดีๆกับการมาท่องเที่ยวในประเทศเล็กๆแห่งนี้นั้นเอง

จึงทำให้ มองว่า เบลีซ เป็นประเทศขนาดเล็กที่มี การส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ ในภูมิภาคแห่งนี้โดยเฉพาะกล้วย เป็นสินค้าส่งออกกว่าร้อยละ 16 ของการส่งออกเบลิซนั้นเอง นอกจากนี้ยังเป็นประเทศ ที่เหมาะแก่การเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติ อันสวยงามอีกแห่งหนึ่ง ของอเมริกากลางที่เหมือนเป็นเพชรเม็ดงาม ของภูมิภาคแห่งนี้นั้นเอง 

ที่เที่ยวสิงคโปร์

หนังฮีโร่ยอดนิยม